Loading...

การสื่อสารและการทำงานเป็นทีม (Communication & Teamwork)

การสื่อสารและการทำงานเป็นทีม (Communication & Teamwork) เป็นเสาหลักของความสำเร็จในองค์กรใดๆ โดยเฉพาะในวัฒนธรรมการทำงานแบบไทย มาดูกันแบบละเอียด


ส่วนที่ 1: การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication)

ในบริบทไทย การสื่อสารไม่ได้อยู่ที่ “เนื้อหา” อย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึง “บริบท” และ “ความสัมพันธ์” ด้วย

1.1 ศิลปะการฟัง (The Art of Listening)

  • การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening): ฟังเพื่อเข้าใจ ไม่ใช่ฟังเพื่อตอบ สังเกตภาษากายและน้ำเสียง
  • การทวนคำพูด (Paraphrasing): เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถูกต้อง เช่น “ถ้าเข้าใจไม่ผิด คุณกำลังจะบอกว่า…”
  • การถามคำถามปลายเปิด: ใช้คำถาม “อะไร, ทำไม, อย่างไร” เพื่อให้ได้ข้อมูลมากขึ้น

1.2 การพูดและการนำเสนอ

  • พูดให้ชัดเจนและกระชับ: 準備เนื้อหามาล่วงหน้า พูดถึงประเด็นสำคัญให้ชัดเจน
  • เล่าเรื่องด้วยข้อมูล (Data Storytelling): ใช้ข้อมูลและตัวเลขมาสนับสนุนความคิด แต่เล่าให้เห็นภาพ
  • ปรับสไตล์การสื่อสารให้เหมาะกับผู้ฟัง: สื่อสารกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงานระดับเดียวกัน และลูกน้อง ไม่เหมือนกัน

1.3 การเขียนอีเมลและแชทอย่างมืออาชีพ

  • หัวเรื่องที่ชัดเจน: บอกประเด็นหลักให้รู้ตั้งแต่แรกเห็น
  • ใช้ภาษาที่เหมาะสม: เป็นทางการตามสมควร ตรวจสอบตัวสะกดก่อนส่ง
  • โครงสร้างที่อ่านง่าย: ใช้ย่อหน้าและ Bullet Point

1.4 การสื่อสารในวัฒนธรรมไทย (สำคัญมาก!)

  • ความเกรงใจ (Consideration): การเลือกใช้คำที่เหมาะสม ไม่ห้วนหรือตรงเกินไป
  • การรักษาหน้า (Saving Face): หลีกเลี่ยงการวิจารณ์หรือตำหนิใครต่อหน้าคนอื่น
  • การอ่านบรรยากาศ (Reading the Atmosphere): รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูดและเมื่อไหร่ควรเงียบ

ส่วนที่ 2: การทำงานเป็นทีม (Effective Teamwork)

ทีมที่ทำงานได้ดีไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่ทำงานอยู่ด้วยกัน แต่คือกลุ่มคนที่ “เชื่อมั่นและพึ่งพาอาศัยกัน”

2.1 พื้นฐานของทีมที่ดี

  • เป้าหมายร่วมกัน (Shared Goal): ทุกคนในทีมต้องเข้าใจและเห็นพ้องกับเป้าหมายเดียวกัน
  • บทบาทและหน้าที่ที่ชัดเจน (Clear Roles & Responsibilities): ใครทำอะไร ต้องชัดเจน (ใช้ RACI Model ช่วยได้)
  • ความไว้วางใจ (Trust): เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด

2.2 เครื่องมือสำหรับการทำงานเป็นทีม

  • การประชุมที่มีประสิทธิภาพ:
    • มีวาระการประชุมที่ชัดเจน (Agenda) ส่งล่วงหน้า
    • เริ่มและเลิกตรงเวลา
    • มีการสรุป action item และผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนหลังการประชุม
  • การใช้เทคโนโลยีร่วมกัน: เช่น Microsoft Teams, Slack, Asana, Trello เพื่อการสื่อสารและติดตามงานที่ centralised

2.3 การจัดการความขัดแย้งในทีม (Team Conflict Management)

  • มองความขัดแย้งเป็นโอกาส: การถกเถียงอย่างสร้างสรรค์นำไปสู่ไอเดียที่ดีกว่า
  • แยกเรื่องpersonality ออกจากประเด็นงาน: โฟกัสที่ปัญหา ไม่ใช่ที่บุคคล
  • ขั้นตอนจัดการ:
    1. ระบุปัญหาที่แท้จริง
    2. เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงมุมมอง
    3. ร่วมกันหาวิธีแก้ไขที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
    4. ตกลงและเดินหน้าต่อไป

ส่วนที่ 3: Workshop และกิจกรรมฝึกปฏิบัติ

ทฤษฎีอย่างเดียวไม่พอ ต้องได้ลงมือทำ

1. กิจกรรม Building Trust

  • กิจกรรม Fall Backward (หล่อย้อนหลัง): สอนเรื่องการไว้วางใจและการรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมทีม
  • การแบ่งปันเรื่องราวส่วนตัว (อย่างเหมาะสม): ช่วยให้ทีมเข้าใจซึ่งกันและกันลึกซึ้งขึ้น

2. กิจกรรมการสื่อสาร

  • เกมใบ้คำโดยห้ามใช้คำบางคำ: ฝึกการสื่อสารโดยมีข้อจำกัด และการตีความ
  • Role-play การให้ Feedback: จำลองสถานการณ์ให้ Feedback ที่ยากๆ

3. กิจกรรมแก้ปัญหาเป็นทีม

  • Lego Serious Play: ใช้ Lego ในการสร้างโมเดลความคิดและแก้ปัญหาเป็นทีม
  • Escape Room Challenge: ฝึกการทำงานร่วมกันภายใต้ความกดดัน

ส่วนที่ 4: กรณีศึกษา (Case Study) สำหรับการวิเคราะห์

สถานการณ์: ทีม A กำลังทำงานโปรเจคสำคัญ แต่เกิดปัญหาขึ้น

  • สมาชิกคนหนึ่ง (โก้) มักทำงานไม่เสร็จตามกำหนดเวลาเสมอ ทำให้งานของคนอื่นติดขัด
  • นัท ซึ่งเป็นคน perfectionist มักวิจารณ์งานของคนในทีมอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เพื่อนร่วมทีมรู้สึกไม่ดี
  • การประชุมทีม มักเลิกช้าและไม่สรุป action ที่ชัดเจน

คำถามสำหรับวิเคราะห์:

  1. ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นคืออะไร?
  2. การสื่อสารแบบใดที่ควรปรับปรุง?
  3. หัวหน้าทีมควรทำอย่างไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์?
  4. แต่ละบุคคลในทีมมีส่วนทำให้เกิดปัญหาอย่างไร?

สรุป: สูตรสำเร็จของการสื่อสารและการทำงานเป็นทีมแบบไทยๆ

  1. ใจเขา ใจเรา (Empathy): พยายามเข้าใจมุมมองและความรู้สึกของผู้อื่นก่อน
  2. พูดให้ชัด ฟังให้เป็น: สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาแต่ด้วยความเกรงใจ ฟังให้มากกว่าพูด
  3. วางเป้าหมายร่วมกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน: ทีมที่แข็งแกร่งเกิดจากความเชื่อมั่นในเป้าหมายเดียวกันและความเคารพในความแตกต่าง
  4. ร่วมแรงร่วมใจ: ความสำเร็จคือความสำเร็จของทีม ความล้มเหลวคือบทเรียนของทีม

การพัฒนาทักษะสองด้านนี้ไม่ใช่การฝึกอบรมครั้งเดียวจบ แต่คือ “วัฒนธรรม” ที่ต้องปลูกฝังและปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในองค์กร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *